กล้วยพืชล้มลุกสารพัดประโยชน์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและอยู่คู่วิถีชีวิตไทยมาช้านานด้วยว่าเป็นพืชที่ปลูกง่ายไห้ผลตลอดปีนำไปใช้ได้แทบทุกส่วน เช่น
ลำต้น
ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นส่วนของก้านใบที่อัดรวมกัน ใบกล้วยหรือใบตอง ใช้ได้ทั้งห่อผักผลไม้เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและความสด
และห่อขนมหรืออาหาร แล้วนำไปผ่านความร้อน ทำไห้กลิ่นหอมเฉพาะตัว
ทั้งยังใช้ทำบายศรีหรืองานประดิษฐ์ต่างๆ ได้สวยงาม โดยเฉพาะใบตองกล้วยตานี
ส่วนปลีกล้วยหรือดอกที่ไม่เจริญผล มักนำไปกินเป็นผัก จึงไม่น่าแปลกใจเลย
หากกล้วยจะเป็นต้นไม้ชนิดแรกๆ ที่คนไทยเลือกปลูกไว้ในอาณาบริเวณบ้าน
กล้วยชนิดที่นิยมกินและมีประโยชน์ต้นๆ ได้แก่ กล้วยไข่ผลขนาดเล็ก มีเบตาแคโรทีน (beta-carotene) และมีวิตามินอีสูงกว่ากล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม
กล้วยน้ำว้าผลขนาดกลางมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระพวกโพลิฟีนอล (polyphenol) แทนนิล (tannin) คาเทชิน (catechin)
รวมทั้งเส้นใยอาหารสูงกว่ากล้วยไข่และกล้วยหอม
กล้วยน้ำว้ายังมีโปรตีนสูงใกล้เคียงกับน้ำนมแม่
จึงนิยมมาบดเป็นอาหารเสริมให้แก่เด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป ส่วนกล้วยหอมเป็นกล้วยที่รู้จักกันทั่วโลก ผลขนาดใหญ่
รสชาติหวานหอม มีน้ำตาลสูงกล่า
แต่ให้พลังงานน้อยกว่ากล้วยไข่และกล้วยน้ำว้า
ผลกล้วยดิบกินเพื่อรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร เพราะมีสารรสฝาดชื่อแทนนิน ที่มีฤทธิ์สมานแผล ยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ลดอาการท้องเสีย แต่กล้วยดิบอาจย่อยยากและทำให้ท้องอืดได้ เนื่องจากมีปริมาณแป้งที่ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลอยู่สูงกว่ากล้วยสุก จึงควรเคี้ยวให้ละเอียด
ส่วนกล้วยสุกนั้นมีเพกตินซึ่งเป็นใยอาหารอยู่สูง ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แก้อาการท้องผูก มีน้ำตาลในธรรมชาติ 3 ชนิดหลักคือ
กลูโคส ฟรักโทส และซูโครส ช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
โพแทสเซียมที่มีสูงในกล้วยจะช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้หัวใจและกล้ามเนื้อแข็งแรง
ทำให้การรับส่งสัญญาณประสาทเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
และช่วยลดความดันโลหิต กล้วยสุกยังมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน (serotonin) กระตุ้นให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี
ช่วยในการนอนหลับ
และลดภาวะซึมเศร้าได้
นอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายภายในแล้ว
กล้วยยังดีจ่อสาวๆที่ต้องการบำรุงผิวพรรณภายนอกด้วย โดยนำกล้วยมาบดให้ละเอียดผสมกับโยเกิร์ต พอกหน้าไว้สักพัก แล้วล้างออก
จะช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นได้
โดยไม่ต้องพึ่งครีมราคาแพง
หรือหากใครมีปัญหาส้นเท้าแตกก็ให้ทาด้วยเปลือกกล้วย
แถมวิธีนี้ยังช่วยลดอาการบวมของผิวหนังจากแผลยุงกัดได้อีกด้วย
ก่อนที่จะนำกล้วยไปประกอบอาหารหรือทำขนม หากไม้ต้องการให้เนื้อกล้วยเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ให้แช่น้ำมะนาวสักครู่ ถ้าต้องการเร่งให้กล้วยสุก ลองใส่กล้วยกับแอปเปิลลงไปในถุงเดียวกัน
แล้วปิดปากถุงไว้
แอปเปิลจะปล่อยก๊าซเอทิลินซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติออกมา ช่วยให้กล้วยสุกเร็วขึ้น ส่วนการเก็บรักษา
หนังสือ ผลไม้บำรุงสุขภาพ
กองบรรณาธิการหนังสือสุขภาพกาย-ใจ
จัดพิมพ์โดย บริษัท
พิมพ์ดี จำกัด
933,935,937 ซอยกาญจนาภิเษก 008 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160