วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

      
 กล้วย banana



กล้วยพืชล้มลุกสารพัดประโยชน์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและอยู่คู่วิถีชีวิตไทยมาช้านานด้วยว่าเป็นพืชที่ปลูกง่ายไห้ผลตลอดปีนำไปใช้ได้แทบทุกส่วน  เช่น  ลำต้น  ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นส่วนของก้านใบที่อัดรวมกัน  ใบกล้วยหรือใบตอง ใช้ได้ทั้งห่อผักผลไม้เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและความสด และห่อขนมหรืออาหาร แล้วนำไปผ่านความร้อน ทำไห้กลิ่นหอมเฉพาะตัว ทั้งยังใช้ทำบายศรีหรืองานประดิษฐ์ต่างๆ ได้สวยงาม โดยเฉพาะใบตองกล้วยตานี ส่วนปลีกล้วยหรือดอกที่ไม่เจริญผล มักนำไปกินเป็นผัก จึงไม่น่าแปลกใจเลย หากกล้วยจะเป็นต้นไม้ชนิดแรกๆ ที่คนไทยเลือกปลูกไว้ในอาณาบริเวณบ้าน
กล้วยชนิดที่นิยมกินและมีประโยชน์ต้นๆ  ได้แก่ กล้วยไข่ผลขนาดเล็ก มีเบตาแคโรทีน  (beta-carotene)  และมีวิตามินอีสูงกว่ากล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม กล้วยน้ำว้าผลขนาดกลางมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระพวกโพลิฟีนอล  (polyphenol) แทนนิล  (tannin) คาเทชิน (catechin) รวมทั้งเส้นใยอาหารสูงกว่ากล้วยไข่และกล้วยหอม กล้วยน้ำว้ายังมีโปรตีนสูงใกล้เคียงกับน้ำนมแม่  จึงนิยมมาบดเป็นอาหารเสริมให้แก่เด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป  ส่วนกล้วยหอมเป็นกล้วยที่รู้จักกันทั่วโลก  ผลขนาดใหญ่  รสชาติหวานหอม  มีน้ำตาลสูงกล่า แต่ให้พลังงานน้อยกว่ากล้วยไข่และกล้วยน้ำว้า
                ผลกล้วยดิบกินเพื่อรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร  เพราะมีสารรสฝาดชื่อแทนนิน  ที่มีฤทธิ์สมานแผล  ยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อโรค  ลดอาการท้องเสีย  แต่กล้วยดิบอาจย่อยยากและทำให้ท้องอืดได้  เนื่องจากมีปริมาณแป้งที่ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลอยู่สูงกว่ากล้วยสุก  จึงควรเคี้ยวให้ละเอียด  ส่วนกล้วยสุกนั้นมีเพกตินซึ่งเป็นใยอาหารอยู่สูง  ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก  แก้อาการท้องผูก  มีน้ำตาลในธรรมชาติ  3  ชนิดหลักคือ  กลูโคส  ฟรักโทส  และซูโครส ช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว  โพแทสเซียมที่มีสูงในกล้วยจะช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย  ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของโลหิต  ช่วยให้หัวใจและกล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้การรับส่งสัญญาณประสาทเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว  และช่วยลดความดันโลหิต  กล้วยสุกยังมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน  (tryptophan)  ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน  (serotonin)  กระตุ้นให้รู้สึกผ่อนคลาย  อารมณ์ดี  ช่วยในการนอนหลับ  และลดภาวะซึมเศร้าได้
                นอกจากจะดีต่อสุขภาพร่างกายภายในแล้ว  กล้วยยังดีจ่อสาวๆที่ต้องการบำรุงผิวพรรณภายนอกด้วย  โดยนำกล้วยมาบดให้ละเอียดผสมกับโยเกิร์ต  พอกหน้าไว้สักพัก  แล้วล้างออก  จะช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นได้  โดยไม่ต้องพึ่งครีมราคาแพง  หรือหากใครมีปัญหาส้นเท้าแตกก็ให้ทาด้วยเปลือกกล้วย  แถมวิธีนี้ยังช่วยลดอาการบวมของผิวหนังจากแผลยุงกัดได้อีกด้วย

                ก่อนที่จะนำกล้วยไปประกอบอาหารหรือทำขนม  หากไม้ต้องการให้เนื้อกล้วยเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ  ให้แช่น้ำมะนาวสักครู่  ถ้าต้องการเร่งให้กล้วยสุก  ลองใส่กล้วยกับแอปเปิลลงไปในถุงเดียวกัน แล้วปิดปากถุงไว้  แอปเปิลจะปล่อยก๊าซเอทิลินซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติออกมา  ช่วยให้กล้วยสุกเร็วขึ้น  ส่วนการเก็บรักษา








หนังสือ ผลไม้บำรุงสุขภาพ
กองบรรณาธิการหนังสือสุขภาพกาย-ใจ

จัดพิมพ์โดย  บริษัท พิมพ์ดี จำกัด
933,935,937 ซอยกาญจนาภิเษก 008 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160